วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อุปกรณ์เพิ่มเติม

สำหรับอุปกรณ์เพิ่มเติมนะครับ  จะเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ที่ควรที่มีก็ได้หรือไม่ก็ได้  แต่สำหรับผมถือว่าเป็น    
          อุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นนึง  นั่นคือ คอนไม้ครับ ... คอนไม้เป็นอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นที่ควรมีเพราะว่า  นอกจากเราจะเลี้ยงนกกระตั้วให้อยู่ในกรงแล้ว  เราควรนำนกออกมาอยู่ภายนอกบ้าง  นอกจากจะได้ผ่อนคลายแล้วยังเพิ่มความใกล้ชิดสนิทสนม  ระหว่างผู้เลี้ยงกับตัวนกด้วย  และที่น่าสนใจและเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือสุขภาพของขานก เพราะว่าเวลาที่นกได้ยืนบนคอนนั้นนกจะทรงตัวได้ดีกว่าพื้นผิวที่เรียบ  และยังป้องกันการฉีกขาดของเล็บอีกด้วย  สำหรับที่บ้านผมนั้นใช้ตามแบบในรูปนะครับ  เป็นแบบเคลื่อนที่ได้สะดวกและสามารถทำความสะอาดได้ง่ายครับ


ในรูปผมนำถาดไปทำความสะอาดนะครับ  จะเห็นได้ว่าข้างล่าง  เป็นล้อสามารถเคลื่อนที่่ได้สะดวกครับ

          ผู้เลี้ยงบางท่านอาจเป็นกังวล  กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยหรือกลัวนกจะบินหนีไป  บางท่านอาจมีการใช้ห่วงล็อคขาให้ติดกับคอนไว้ เป็นแบบที่สามารถถอดตัวสายออกได้เพื่อป้องกันอันตราย  หรือผู้เลี้ยงบางท่านอาจจะใช้วิธีอื่น เช่นการตัดปีกด้านในก็ได้  เพราะการใส่ห่วงอาจทำให้นกกระตั้วของท่านรู้สึกอึดอัด  แต่การตัดนั้นอาจต้องใช้ความชำนาญบ้างก็จะปลอดภัยกว่า  และนกกระตั้วที่บ้านผมก็เลือกใช้วิธีนี้เช่นกัน
          ที่เลือกใช้วิธีตัดปีกนั้นก็เพราะว่า  นกกระตั้วที่บ้านไม่ให้ความร่วมมือในการใส่ห่วงที่ขาเลย  และหลังจากมีการตัดปีกและ  นกก็อาจจะยังสามารถบินได้  แต่เป็นการบินต่ำ  คือหมายถึงว่า บินจากสูงลงต่ำอย่า  จากคอนลงมาที่พื้น  จะไม่สามารถบินขึ้นได้    จะเห็นได้ว่านกจะมีความอิสระมากกว่า


วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อุปกรณ์ในลำดับต่อๆมา

          ในบทความก่อนหน้านี้ผมได้  พูดถึงอุปกรณ์ในการป้อนอาหารและวิธีการป้อนอาหารไปแล้วนะครับ สำหรับบทความนี้นั้น  จะพูดถึงอุปกรณ์ชิ้นต่อๆมา  จะไล่ไปตามลำดับความสำคัญนะครับ
          สำหรับอุปกรณ์ที่จะพูดเป็นชิ้นแรกเลยนั้นก็คือ  กรงครับ  กรงนกนั้นเป็นอุปกรณ์สำคัญอีกหนึ่งชิ้น  ที่สำคัญต่อมาจากอาหารการกิน  เพราะนกนั้นเป็นสัตว์ปีกครับ  มันย่อมบินได้  อีกทั้งกรงจะช่วยแบ่งเบาการดูแลได้มาเลยที่เดียว  เพราะบางเวลาที่เราไม่อยู่บ้านนั้น  เราก็คงต้องพึ่งเจ้ากรงนี่แหละที่จะฝากนกของเราได้  กรงนกที่จะเลี้ยงนกกระตั้วได้นั้นต้องมีขนาดใหญ่พอสมควร  ตัวผมเองก็ไม่ทราบว่ามาตรกรงที่ใช้เลี้ยงนกกระตั้วขนาดมันต้องเท่าไหร่  แต่ที่บ้านผมใช้ขนาดประมาณ 100X180 ซม.
      


ตามในรูปภาพเลยนะครับ  ผมว่ามันใหญ่พอตัวเลยนะสำหรับนก 1ตัว  และมีพื้นที่พอที่จะใส่ของเล่นต่างๆเข้าไปได้อีกด้วย  สำหรับที่นับเป็นอุปกรณ์ที่จะใส่เข้าไปในกรงนก  ก็จะมีถ้วยน้ำ,ถ้วยอาหาร,และอีกชิ้นที่ขาดไม่ได้  คือ คอนที่ให้นกยืนครับ  ส่วนที่เหลือที่จะใส่เข้าไปในกรงผมขอเรียกว่า  เป็นของเล่นของนกก็แล้วกันครับ



วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อุปกรณ์และการเลี้ยงดูเบื้องต้น

          สำหรับอุปกรณ์และการดูแลเบื้องต้นครับ
สำหรับนกกระตั้วที่เป็นลูกป้อนนั้น  ยังไม่สามารถจะกินอาหารเองได้  ดังนั้นเราก็จะมีอุปกรณ์ที่ใช้เบื้องต้น  ที่สำคัญเป็นชิ้นแรกๆเลย  ก็คือ สลิงค์ที่ใช้ป้อนอาหาร สายยางสวมปลายสลิงค์ และก็อาหารเหลวครับ  เป็นอาหารที่เป็นผงนะคัรบ  แล้วนำมาชงกับน้ำร้อนเหมือ อาหารเด็ก(ซีลีแลค) ผมไม่รู้ว่าเค้าใช้ยี่ห้อไหนกัน ที่บ้านผมใช้ยี่ห้อตามรูปภาพเลยนะครับ




          การเตรียมอาหารและการป้อนนะครับ  สำหรับบ้านผมจะ  ต้มน้ำร้อนให้เดือด  แล้วนำไปชงกับอาหารผง ในรูป  ประมาณมื้อละ 2ช้อนชา (พอชงออกมาใช้สลิงค์ดูดขึ้นมา  จะอยู่ที่ 30-40 ซีซี  ครับ) ชงกับน้ำร้อนนะครับ  ค่อยๆใส่น้ำร้อนลงไปทีละนิดๆ  ดูว่าไม่ให้เหลวและข้นจนเกินไป  จากนั้นก็พักไว้ให้เย็นสนิดก่อนนะครับ  และต่อมาพอเย็นแล้ว แนะนำว่าให้ใช้นิ้วจุ่มลงไปเลย  ต้องเย็นแบบนิ้วเราไม่ใด้รู้สึกอุ่นเลยยิ่งดีมากครับ  แล้วค่อยนำสลิงค์มาดูด  แล้วจึงนำไปป้อนครับ  ลูกนกกระตั้วเวลาหิวเค้าจะตอบรับการป้อนเป็นอย่างดีมาก  เหมือนว่าเราเป็นแม่มาให้อาหารเลยก็ว่าได้
          ในคลิปวีดีโอที่ลงไว้นี้  เป็นขั้นตอนหลังการชงอาหาร ซึ่งกำลังจะเตรียมนำไปป้อนแล้วครับ

กดที่ลิงค์ได้เลยนะครับ ...  สำหรับคลิปวีดีโอ
http://www.youtube.com/watch?v=fSUgSGlLtjM





วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ทำไมชื่อ จีจี้

       ครับ ... ขอพูดถึงก่อนหน้าที่ผมจะได้นำนกกระตั้วมาเลี้ยงที่บ้านนะครับ
คือตอนนั้น ที่บ้านอยากได้นกตัวใหญ่ๆ ขี้เล่นๆสักตัวมาเลี้ยง  ก็มองดูระหว่างนกแก้วมาคอร์ กับเจ้ากระตั้วนี่ แหละครับ  ทำให้ที่บ้านเริ่มหาข้อมูลต่างๆมาเรื่อย  จนกระทั่งตัดสินใจว่าเป็นกระตั้ว  เพราะจากข้อมูลที่ว่า มันจะขี้เล่นและเป็นกันเองมากกว่า คุย-พูดเก่งกว่า ตอบสนองง่ายกว่า  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อมด้วยนะครับ
      
       เริ่มต้นเลย  คืออยู่มาวันนึงผมก็เห็นมีผู้ชายคนนึงมาที่บ้าน พร้อมกับนกกระตั้ว 3 ตัวด้วยกัน เท่าที่จำได้นะ  นก 3 ตัวที่ว่านั้นมี เลเซอร์,เกรทเตอร์ และอีกตัวเป็นลูกผสมระหว่าง มิเดียม กับบลูอาย  ถ้าผมจำไม่ผิดนะ  นกทั้ง 3 ตัวเป็นลูกป้อนนะครับ  เป็นลูกนกด้วย อายุราว 2 เดือนได้มั้ง  เพราะตอนเจอกันก็เริ่มมีขนปิดจะเต็มตัวแล้วครับ  ซึ่งพอมาถึงตอนนี้ก็ต้องเลือกแล้วครับว่าตัวไหน  ซึ่งมองจากตาแล้วผมเองก็มองเกรทเตอร์อยู่ก่อนแล้ว  เพราะขนแน่นตัวก็ใหญ่กว่าตัวอื่น  ดูมีสุขภาพดีกว่า  แล้วยังมีขนใกล้ๆตรงปากด้วย แต่ก็ดูความเห็นจากที่บ้านด้วยว่าจะเอาไงกัน  ตอนนั้นเห็นเลเซอร์จะดูเพรียวๆ ส่วนตัวลูกผสมตาจะออกหวานๆหน่อย  และแล้วทุกคนก็ลงความเห็นไปที่ เกรทเตอร์ จนได้

       มาถึงขั้นตอนของการตั้งชื่อครับ  คือต้องท้าวความก่อนว่า  ก่อนหน้าที่จะเลี้ยงนกกระตั้ว  ผมไปพาสุนัขมาเลี้ยงหนึ่งตัว  เป็นพันธุ์บีเกิ้ล 2 สี  แล้วก็ตั้งชื่อว่า จีจ้า ครับ  นกกระตั้วตัวนี้ก็เลยได้ชื่อ จีจี้ ไปแบบงงๆ  แต่อีกเหตุผลนึงที่ได้ชื่อนี้มาเพราะที่บ้านอยากให้เป็นตัวเมีย ซึ่งตอนนั้นยังไม่สามารถรู้เพศของมันได้  เค้าบอกแต่ว่าถ้าเป็นตัวเมีย  พอเริ่มโตเต็มที่ตาจะมีสีแดง  แล้วที่อยากให้เป็นตัวเมียก็เพราะว่า  ที่บ้านอยากเอาไปจับคู่กับ โมลัคคัล (ตัวที่กว่าถึงไปในบทความก่อนหน้านี้)  ซึ่งถ้ามันเป็นตัวเมียจริงๆ เค้าก็บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะจับคู่กัน